เมนู

5. สาริปุตฺตตฺเถรสฺส มาตุลพฺราหฺมณวตฺถุ

มาเส มาเสติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เวฬุวเน วิหรนฺโต สาริปุตฺตตฺเถรสฺส มาตุลพฺราหฺมณํ อารพฺภ กเถสิฯ

เถโร กิร ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา อาห – ‘‘กิํ นุ โข, พฺราหฺมณ, กิญฺจิเทว กุสลํ กโรสี’’ติ? ‘‘กโรมิ, ภนฺเต’’ติฯ ‘‘กิํ กโรสี’’ติ? ‘‘มาเส มาเส สหสฺสปริจฺจาเคน ทานํ ทมฺมี’’ติฯ ‘‘กสฺส เทสี’’ติ? ‘‘นิคณฺฐานํ, ภนฺเต’’ติฯ ‘‘กิํ ปตฺถยนฺโต’’ติ? ‘‘พฺรหฺมโลกํ, ภนฺเต’’ติฯ ‘‘กิํ ปน พฺรหฺมโลกสฺส อยํ มคฺโค’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต’’ติฯ ‘‘โก เอวมาหา’’ติ? ‘‘อาจริเยหิ เม กถิตํ, ภนฺเต’’ติฯ ‘‘โน ตฺวํ พฺรหฺมโลกสฺส มคฺคํ ชานาสิ, นาปิ เต อาจริยา, สตฺถาว เอโก ชานาติ, เอหิ, พฺราหฺมณ, พฺรหฺมโลกสฺส เต มคฺคํ กถาเปสฺสามี’’ติ ตํ อาทาย สตฺถุ สนฺติกํ เนตฺวา, ‘‘ภนฺเต, อยํ พฺราหฺมโณ เอวมาหา’’ติ, ‘‘ตํ ปวตฺติํ อาโรเจตฺวา สาธุ วตสฺส พฺรหฺมโลกสฺส มคฺคํ กเถถา’’ติฯ สตฺถา ‘‘เอวํ กิร, พฺราหฺมณา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อาม, โภ โคตมา’’ติ วุตฺเต, ‘‘พฺราหฺมณ, ตยา เอวํ ททมาเนน วสฺสสตํ ทินฺนทานโตปิ มุหุตฺตมตฺตํ ปสนฺนจิตฺเตน มม สาวกสฺส โอโลกนํ วา กฏจฺฉุภิกฺขามตฺตทานํ วา มหปฺผลตร’’นฺติ วตฺวา อนุสนฺธิํ ฆเฏตฺวา ธมฺมํ เทเสนฺโต อิมํ คาถมาห –

[106]

‘‘มาเส มาเส สหสฺเสน, โย ยเชถ สตํ สมํ;

เอกญฺจ ภาวิตตฺตานํ, มุหุตฺตมปิ ปูชเย;

สาเยว ปูชนา เสยฺโย, ยญฺเจ วสฺสสตํ หุต’’นฺติฯ

ตตฺถ สหสฺเสนาหิ สหสฺสปริจฺจาเคนฯ โย ยเชถ สตํ สมนฺติ โย วสฺสสตํ มาเส มาเส สหสฺสํ ปริจฺจชนฺโต โลกิยมหาชนสฺส ทานํ ทเทยฺย, เอกญฺจ ภาวิตตฺตานนฺติ โย ปน เอกํ สีลาทิคุณวิเสเสน วฑฺฒิตอตฺตานํ เหฏฺฐิมโกฏิยา โสตาปนฺนํ, อุปริมโกฏิยา ขีณาสวํ ฆรทฺวารํ สมฺปตฺตํ กฏจฺฉุภิกฺขาทานวเสน วา ยาปนมตฺตอาหารทานวเสน วา ถูลสาฏกทานมตฺเตน วา ปูเชยฺยฯ ยํ อิตเรน วสฺสสตํ หุตํฯ ตโต สาเยว ปูชนา เสยฺโยฯ เสฏฺโฐ อุตฺตโมติ อตฺโถติฯ

เทสนาวสาเน โส พฺราหฺมโณ โสตาปตฺติผลํ ปตฺโต, อญฺเญปิ พหู โสตาปตฺติผลาทีนิ ปาปุณิํสูติฯ

สาริปุตฺตตฺเถรสฺส มาตุลพฺราหฺมณวตฺถุ ปญฺจมํฯ

6. สาริปุตฺตตฺเถรสฺส ภาคิเนยฺยวตฺถุ

โย จ วสฺสสตํ ชนฺตูติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เวฬุวเน วิหรนฺโต สาริปุตฺตตฺเถรสฺส ภาคิเนยฺยํ อารพฺภ กเถสิฯ

ตมฺปิ หิ เถโร อุปสงฺกมิตฺวา อาห – ‘‘กิํ, พฺราหฺมณ, กุสลํ กโรสี’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต’’ติฯ ‘‘กิํ กโรสี’’ติ? ‘‘มาเส มาเส เอกํ เอกํ ปสุํ ฆาเตตฺวา อคฺคิํ ปริจรามี’’ติฯ ‘‘กิมตฺถํ เอวํ กโรสี’’ติ? ‘‘พฺรหฺมโลกมคฺโค กิเรโส’’ติฯ ‘‘เกเนวํ กถิต’’นฺติ? ‘‘อาจริเยหิ เม, ภนฺเต’’ติฯ ‘‘เนว ตฺวํ พฺรหฺมโลกสฺส มคฺคํ ชานาสิ, นาปิ เต อาจริยา, เอหิ, สตฺถุ สนฺติกํ คมิสฺสามา’’ติ ตํ สตฺถุ สนฺติกํ เนตฺวา ตํ ปวตฺติํ อาโรเจตฺวา ‘‘อิมสฺส, ภนฺเต, พฺรหฺมโลกสฺส มคฺคํ กเถถา’’ติ อาหฯ สตฺถา ‘‘เอวํ กิรา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘เอวํ, โภ โคตมา’’ติ วุตฺเต, ‘‘พฺราหฺมณ, วสฺสสตมฺปิ เอวํ อคฺคิํ ปริจรนฺตสฺส ตว อคฺคิปาริจริยา มม สาวกสฺส ตงฺขณมตฺตํ ปูชมฺปิ น ปาปุณาตี’’ติ วตฺวา อนุสนฺธิํ ฆเฏตฺวา ธมฺมํ เทเสนฺโต อิมํ คาถมาห –

[107]

‘‘โย จ วสฺสสตํ ชนฺตุ, อคฺคิํ ปริจเร วเน;

เอกญฺจ ภาวิตตฺตานํ, มุหุตฺตมปิ ปูชเย;

สาเยว ปูชนา เสยฺโย, ยญฺเจ วสฺสสตํ หุต’’นฺติฯ

ตตฺถ ชนฺตูติ สตฺตาธิวจนเมตํฯ อคฺคิํ ปริจเร วเนติ นิปฺปปญฺจภาวปตฺถนาย วนํ ปวิสิตฺวาปิ ตตฺถ อคฺคิํ ปริจเรยฺยฯ เสสํ ปุริมสทิสเมวาติฯ

เทสนาวสาเน โส พฺราหฺมโณ โสตาปตฺติผลํ ปาปุณิ, อญฺเญปิ พหู โสตาปตฺติผลาทีนิ ปาปุณิํสูติฯ

สาริปุตฺตตฺเถรสฺส ภาคิเนยฺยวตฺถุ ฉฏฺฐํฯ